เมื่อพบเจอกับความผิดหวังในชีวิต คุณรับมือกับมันอย่างไรครับ?
การปล่อยวางและบอกตัวเองให้ทำใจยอมรับความจริงดูเหมือนจะเป็นทางออก แต่บางครั้งการพยายามปล่อยวางความคาดหวังทั้งที่ลึก ๆ แล้วยังหวังอยู่ อาจไม่ช่วยให้เราก้าวผ่านเรื่องนั้นไปได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องที่มีความสำคัญหรือมีความหมายต่อตัวเรา การพยายามปล่อยวางอาจเป็นการเพิ่มเติมความคาดหวังเรื่องใหม่—หวังว่าตัวเองจะปล่อยวางได้—เข้าไปอีก
ใช่ว่าเราจะไร้เดียงสาไม่รู้ว่าเรื่องใดเราควรหวังหรือไม่ควรหวังเอาเสียเลย บางเรื่องในชีวิตความจริงตรงหน้านั้นชัดเจนในตัวเองว่าเราไม่มีทางสมหวังและไม่ควรหวังต่อ แต่เหตุผลกับความรู้สึกมักทำงานสวนทางกัน ทำให้หลายคนไม่อาจทำใจปล่อยวางและยอมรับความผิดหวังได้เหมือนที่สมองคิด
ในห้องปรึกษา ผมมีโอกาสพบเจอคนจำนวนมากที่ต้องการปล่อยวางความคาดหวังบางอย่างที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ ทั้งที่รู้ว่าควรทำใจยอมรับความจริงในเรื่องที่หวังอะไรไม่ได้อีกต่อไป แต่พวกเขาก็ทำไม่ได้ บางคนรู้ว่าต้องปล่อยวางความคาดหวังที่มีต่อลูก เพราะในวันนี้ลูกไม่ใช่เด็กตัวเล็กน่ารักที่เชื่อฟังเขาทุกอย่างอีกต่อไป บางคนรู้ว่าต้องทำใจยอมรับความจริงว่าเป้าหมายในความสัมพันธ์ของตนเองกับคนรักไม่ตรงกันอีกต่อไป บางคนรู้ว่าต้องลุกขึ้นเดินหน้าต่อจากความผิดหวังในหน้าที่การงานที่ทุ่มทั้งชีวิตลงไปแต่กลับไม่ประสบความสำเร็จดังที่หวัง และอีกหลายกรณีที่มีใจกลางอยู่ที่ความคาดหวังในสิ่งที่ไม่เป็นจริง
ในมุมมองของผม แทนที่จะรีบทำใจปล่อยวางทั้งที่ยังทำไม่ได้ บางเรื่องในชีวิตเราจำเป็นต้องยอมให้ตัวเองอยู่กับความคาดหวังและเจ็บปวดกับความสิ้นหวังให้ถึงที่สุด เมื่อเราซื่อตรงต่อความรู้สึกมากพอ ไม่พยายามหลอกตัวเองด้วยเหตุผลที่เราไม่ได้เชื่อมันจากใจจริง เราอาจสัมผัสได้ว่าการปล่อยวางเรื่องที่ปล่อยวางไม่ได้นั้นเป็นไปได้
ไม่มีใครรู้ว่าอะไรทำให้เราปล่อยวางความคาดหวังหรือยอมรับความจริงของชีวิตได้อย่างแท้จริง แต่สิ่งที่เราทำได้ เหมือนที่ผมพยายามชวนให้ผู้มาปรึกษาทำคือการยอมรับความคาดหวังและความเจ็บปวดของตัวเอง ไม่หลอกตัวเองว่าเราไม่คาดหวังและทำใจได้ เพื่อไม่เพิ่มเติมความคาดหวังที่ไม่เป็นจริงอีกเรื่องหนึ่งเข้าไปในสถานการณ์
เมื่อเราตระหนักว่าความจริงของชีวิตไม่ได้ขึ้นกับความหวังของเรา แต่ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยมากมาย เมื่อมีปัจจัยที่จำเป็นครบถ้วนเพียงพอ ต่อให้เราไม่ต้องหวัง สิ่งที่จำเป็นต้องเกิดก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี เมื่อนั้นความหนักหน่วงในใจที่เกิดจากการพยายามควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นดังใจก็จะหายไป หรืออย่างน้อยก็เบาลง
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เราย่อมปล่อยวางความหวังที่ไม่มีทางเป็นจริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ และก้าวต่อไปหาความหวังใหม่ที่เป็นไปได้จริง